The History of RUM

  • admin
  • Blog
  • March 2, 2024

Rum is a liquor made by fermenting and then distilling sugarcane molasses or sugarcane juice. The distillate, a clear liquid, is often aged in barrels of oak. While associated with the Caribbean due to its Barbadian origin, 

rum is nowadays produced in nearly every major sugar-producing region of the world, such as the Philippines, where Tanduay Distillers, the largest producer of rum worldwide, has its headquarters.

Rums are produced in various grades. Light rums are commonly used in cocktails, whereas “golden” and “dark” rums were typically consumed straight or neat, iced (“on the rocks”), or used for cooking, but are now commonly consumed with mixers. Premium rums are made to be consumed either straight or iced.

Rum plays a part in the culture of most islands of the West Indies as well as the Maritime provinces and Newfoundland, in Canada. It has associations with the Royal Navy (where it was mixed with water or beer to make grog) and piracy (where it was consumed as bumbo). Rum has also served as a medium of economic exchange, used to help fund enterprises such as slavery (see Triangular trade), organized crime, and military insurgencies such as the American Revolution and the Australian Rum Rebellion.

credits.
https://en.wikipedia.org/wiki/Rum

relate post

WHITE RUM สี ความใส และความหนืด

WHITE RUMสี ความใส และความหนืดโดยทั่วไปรัมจะมีสีทองและสีเหลืองอำพันเมื่อบ่มไว้ ผู้กลั่นบางรายใช้น้ำตาลไหม้หรือสีคาราเมลเพื่อเพิ่มหรือปรับสมดุลสีเพื่อให้มีความสม่ำเสมอ เมื่อเวลาผ่านไป น้ำและแอลกอฮอล์บางส่วนจะระเหยออกจากถังบ่ม ของเหลวที่หายไปนี้ถูกเรียกกันมานานแล้วว่า “ส่วนแบ่งของนางฟ้า” ผลิตภัณฑ์ที่เหลืออยู่ในถังบ่มจะมีความเข้มข้นมากขึ้นในด้านรสชาติ สี และความหนืดเมื่อประเมินเหล้ารัมคุณภาพดี ผู้ตัดสินจะตรวจสอบสี = ขั้นตอนนี้ต้องดูในช่วงการหมักบ่ม รัมที่ดีควรจะได้ สีทอง หรือ เหลืองอัมพันความใส = ขั้นตอนนี้ ดูจากการขั้นตอนการกลั่นออกมา ควรจะใสเหมือนน้ำค้าง ในตอนรุ่งสาง และความหนืดของเหล้ารัม = โดยเราสามารถทดสอบความหนืดได้โดยการถือแก้วชิมไว้ใกล้แหล่งกำเนิดแสงแล้วหมุนผลิตภัณฑ์ หยดของเหลวที่เกิดขึ้นบนแก้วซึ่งเรียกว่า “ขา” บ่งบอกถึงลักษณะเฉพาะของเหล้ารัมที่บางหรือหนา สีสันที่เข้มข้นของเหล้ารัม กระบวนการสุดท้ายนี้จะ ทำให้เกิดรัมชั้นดีจากผู้เชี่ยวชาญด้านรัมโดยเฉพาะ ก่อนจะถึงผู้ที่ชื่นชอบรัมในเวลาถัดไป #whiterum#เกร็ดความรู้#bar#bartender#trending#ติดเทรน#ฟีด#fyp

อะไรที่ทำให้ RUM มีเอกลักษณ์ในโลกแห่ง SPIRIT

เราทราบกันดีว่าสก็อตช์ผลิตได้เพียงแห่งเดียวเท่านั้น นั่นคือสกอตแลนด์ และเตกีลาผลิตได้เพียงแห่งเดียวเท่านั้น นั่นคือภูมิภาคเตกีลาในเม็กซิโก ส่วนคอนยัคผลิตได้เฉพาะในภูมิภาคคอนยัคในฝรั่งเศสเท่านั้น ส่วนวิสกี้เทนเนสซีผลิตได้เฉพาะใน… คุณเดาถูกแล้ว… เทนเนสซี ในทำนองเดียวกัน สุราส่วนใหญ่ก็ขึ้นอยู่กับภูมิภาคและรูปแบบการผลิตที่แตกต่างกันส่วนเอกลักษณ์ เฉพาะ ของรัม นั้นมีดังนี้ 1. รสชาติที่หลากหลาย รัมมีหลายประเภท แต่ละประเภทมีรสชาติที่แตกต่างกันไป 2. กลิ่นหอม รัมมีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ หอมกลิ่นอ้อย คาราเมล วานิลลา ผลไม้ 3. ความลุ่มลึก รัมบ่มนานมีรสชาติซับซ้อน นุ่มนวล 4. เหมาะกับทุกโอกาส รัมสามารถดื่มได้หลายวิธี ดื่มเพียว ผสมค็อกเทล หรือทำอาหาร

Bar Spoon ช้อนบาร์ แบ่งออกเป็นกี่กลุ่มกันน้าา ??

Bar Spoon ช้อนบาร์ แบ่งออกเป็นกี่กลุ่มกันน้า ?? – ใช้สำหรับคนชงผสม หรือใช้ตีทุบน้ำแข็ง หรือใช้ช่วยรินเลเยอร์เหล้าให้เป็นชั้นๆ บางรุ่นใช้บดขยี้ได้ด้วย ช้อนมีความยาวตั้งแต่ 9-20 นิ้ว ควรเลือกความยาวที่หยิบจับได้เหมาะมือ มีน้ำหนักไม่บางจนเกินไป แนะนำความยาว 11-12 นิ้ว ด้ามช้อนถ้ามีเกลียวบิดจะช่วยลดแรงเสียดทาน เพิ่มการไหลเวียนของเครื่องดื่มขณะคนชงหมุน หรือเลเยอร์ได้ดี เรียกว่า Laminar Flow ตัวช้อนบาร์แบบดั้งเดิม จะมีปริมาตร 1 ช้อนชา หรือ 5 มล. หรือ 0.16 ออนซ์ หากกำหนดตามมาตรฐานของ IBA (International Bartender Association) ตัวช้อนบาร์จะมีปริมาตร 1/2 ช้อนชา หรือ 2.50 มล. หรือ 0.32 ออนซ์ ปัจจุบันตัวปลายด้ามช้อนมีหลากหลายรูปแบบมาก แต่ถ้าตามรูปแบบดั้งเดิมจะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1.American Bar Spoon […]