Home & Furniture Fair 2024

พบกับสินค้าราคาพิเศษ ได้ที่บูธ FZ22 ในงาน Home & Furniture Fair 2024 ตั้งแต่วันที่ 14-2 กันยายน 2567 ที่ศูนย์การแสดงสินค้าไบเทค-บางนา

#HomeandFurnitureFair2024 #VincentGold #Brandy #บรั่นดี #Phoenix #ฟีนิกซ์ #Phoenixcocktail #คุณภาพมาตรฐานฝรั่งเศษ #เครื่องดื่ม #สายดื่ม
*ไม่สนับสนุนการดื่มแอลกอฮอล์ในเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี

The Histoy of White Rum

The Ultimate Guide to Peach Liqueur: From History to Mixology
คู่มือฉบับสมบูรณ์เกี่ยวกับเหล้าพีช: ตั้งแต่ประวัติศาสตร์จนถึงการผสมเครื่องดื่ม

เหล้าพีชเป็นเหล้าหวานและผลไม้ที่ทำจากพีช น้ำตาล และแอลกอฮอล์ เป็นส่วนผสมยอดนิยมในค็อกเทลและมักใช้เพื่อเพิ่มกลิ่นผลไม้ให้กับค็อกเทลคลาสสิก เช่น Bellini และ Peach Margarita เหล้าพีชมีเนื้อสัมผัสที่เนียนและนุ่ม และรสพีชหวานทำให้เป็นที่นิยมในหมู่ผู้ที่ชื่นชอบค็อกเทล

ประวัติของเหล้าพีช (The History of Peach Liqueur)
ประวัติของเหล้าพีชสามารถสืบย้อนไปถึงศตวรรษที่ 16 ซึ่งเป็นช่วงที่เหล้าชนิดนี้ถูกผลิตขึ้นครั้งแรกในฝรั่งเศส เดิมเรียกว่า “crème de pêche” (ครีม-เดอ-พีช) และใช้บรั่นดีพีช น้ำตาล และครีม เมื่อเวลาผ่านไป สูตรก็ได้รับการพัฒนาและเอาครีมออก ทำให้ได้รสพีชที่เข้มข้นขึ้น

ในศตวรรษที่ 19 เหล้าพีชได้รับความนิยมในสหรัฐอเมริกา และถูกนำไปใช้ในค็อกเทลหลายประเภท โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคห้ามจำหน่ายสุรา ซึ่งใช้เพื่อกลบรสชาติของแอลกอฮอล์เถื่อน

ในปัจจุบันเหล้าพีชยังคงได้รับความนิยม และถูกนำไปใช้ในค็อกเทลหลายประเภททั่วโลก
เหล้าพีชทำอย่างไร (How is Peach Liqueur Made?)
เหล้าพีชทำขึ้นโดยนำพีชสุกไปแช่ในแอลกอฮอล์ ซึ่งโดยปกติจะเป็นบรั่นดีหรือสุราที่เป็นกลาง เช่น วอดก้า ส่วนผสมจะถูกทิ้งไว้ให้หมักเป็นเวลาหลายสัปดาห์ เพื่อให้กลิ่นและรสชาติของพีชแทรกซึมเข้าไปในแอลกอฮอล์ หลังจากช่วงการแช่แล้ว ส่วนผสมจะถูกกรองเพื่อแยกของแข็งออก และเติมน้ำตาลลงไปเพื่อให้เหล้ามีรสหวาน

เหล้าพีชแต่ละยี่ห้ออาจใช้กรรมวิธีและส่วนผสมที่แตกต่างกันในการทำเหล้า ส่งผลให้มีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกัน บางยี่ห้ออาจเติมสารแต่งกลิ่นรสอื่นๆ เช่น วานิลลาหรืออบเชยลงในเหล้าพีชเพื่อเพิ่มรสชาติ

ประเภทของเหล้าพีช (Types of Peach Liqueur)
มีเหล้าพีชหลายประเภทในท้องตลาด โดยแต่ละประเภทมีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เหล้าพีชประเภทที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ได้แก่:

เหล้าพีชชแนปส์ (Peach Schnapps)
เหล้าพีชชแนปส์เป็นเหล้าพีชประเภทหนึ่งที่มีต้นกำเนิดในเยอรมนี เหล้าชนิดนี้ทำมาจากน้ำพีช น้ำตาล และสุราที่เป็นกลาง เหล้าพีชชแนปส์มีรสชาติที่นุ่มนวลและหวาน และมักใช้ในค็อกเทล เช่น Fuzzy Navel และ Sex on the Beach

บรั่นดีพีช (Peach Brandy)
เหล้าพีชบรั่นดีเป็นเหล้าพีชประเภทหนึ่งที่ทำโดยการกลั่นลูกพีชหมัก เหล้าพีชมีรสชาติที่เข้มข้นกว่าเหล้าพีชชนิดอื่น และมักใช้เป็นเหล้าสำหรับจิบ พีชบรั่นดียังใช้ในค็อกเทล เช่น Peach Bellini และ Peach Daiquiri

เหล้าพีช (Peach Liqueur)
เหล้าพีชเป็นเหล้าผลไม้ชนิดหนึ่งที่ทำจากลูกพีช น้ำตาล และสุราที่เป็นกลาง มีรสชาติหวานและมีกลิ่นผลไม้ และมักใช้เพื่อเพิ่มกลิ่นผลไม้ให้กับค็อกเทล เช่น Peach Margarita และ Prach Martini

The Histoy of White Rum

White rum, also known as light rum or silver rum, has a fascinating history that dates back several centuries. Its origins can be traced to the Caribbean, where the production of rum began during the era of European colonisation.

The Early Days
Rum production is believed to have started in the 17th century on the sugarcane plantations of the Caribbean islands, particularly in Barbados and Jamaica. European colonisers, primarily the British, realised that the molasses, a byproduct of sugarcane processing, could be fermented and distilled to produce a potent alcoholic beverage. This early version of rum was known as “kill-devil” or “rumbullion.”

Development and Expansion
As the demand for rum grew, the production techniques evolved. Distillers discovered that distilling the fermented molasses multiple times resulted in a smoother and lighter spirit. This refinement process led to the creation of white rum. The rum was typically aged in wooden barrels, but some producers started to filter the aged rum through charcoal or other filtering methods to remove the colour and create a clear, transparent spirit.

Rum’s popularity quickly spread throughout the Caribbean and beyond. It became an essential part of the triangular trade between Europe, Africa, and the Americas, with rum being exchanged for slaves and other goods. By the 18th century, rum was a common spirit consumed by sailors, pirates, and the general population.

Prohibition and Rebirth
In the 19th and early 20th centuries, rum faced significant challenges due to various factors, including the abolition of slavery, political instability in the Caribbean, and the rise of temperance movements. Additionally, the introduction of cheaper and more accessible spirits like vodka and gin further diminished the popularity of rum.

However, white rum experienced a revival during the Prohibition era in the United States (1920-1933). With the ban on alcohol, the Caribbean became a popular destination for Americans seeking alcoholic beverages. Rum, particularly the white variety, gained popularity due to its use in cocktails like the Daiquiri and the Mojito.

Modern Era
In the 20th century, white rum continued to evolve and gain recognition as a versatile spirit. Distilleries experimented with various production methods, aging techniques, and blends to create distinct flavor profiles. Different Caribbean islands developed their own styles of white rum, each with its unique characteristics.

Today, white rum is a staple in the cocktail world and remains popular for its versatility and ability to blend seamlessly with other ingredients. It is often used in classic cocktails like the Piña Colada, Cuba Libre, and Mai Tai. Additionally, white rum is a crucial ingredient in many tropical and tiki-inspired drinks.

In recent years, craft distilleries have emerged, producing small-batch white rums with an emphasis on quality and unique flavours. This resurgence has brought attention to the heritage and craftsmanship of rum production, leading to a renewed appreciation for the history and artistry behind white rum.

Overall, the history of white rum is intertwined with the Caribbean’s colonial past, the growth of the sugarcane industry, and the development of distillation techniques. From its humble origins on the plantations to its status as a beloved spirit worldwide, white rum has played a significant role in the cultural and social fabric of the Caribbean and beyond.

Credit : https://mountsbaydistillery.com/blogs/journal/the-history-of-white-rum?srsltid=AfmBOoq96iGcZ6zML2gL_y6gXeNBY7OWd0zWJiI22jmjjTs79jXcdPRO

Sambuca

Sambuca
เป็นเหล้าที่เรียกได้ว่าเป็นญาติสนิทกับเหล้า Anisette เพราะมันผลิตจากการกลั่น โป๊ยกั๊ก หรือ จันทน์แปดกลีบเหมือนกัน เริ่มมีขายช่วงปลายศตวรรษที่ 18 ในเมืองชีวีตาเวคเคีย(Civitavecchia) จนในปี 1945 เกือบใกล้สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ผู้บังคับบัญชา Angelo Molinari เริ่มผลิต Sambuca Extra Molinari ที่ทำให้เจ้าเหล้าตัวนี้กลายเป็นที่นิยมไปทั่วอิตาลี Sambuca มีทั้งสีดำและสีขาว แต่สีขาวใสยังเป็นที่นิยมมากกว่า

Sambuca Black ต้นกำเนิดจะเป็นเหล้าจาก อิตาลี่ เป็น “Liquore Sambuca” ที่ลึกล้ํา ซึ่งเป็นเหล้าที่ละเอียดอ่อนจากการได้รับสีจากการผสมสูตรดั้งเดิมของ Sambuca กับเอลเดอร์เบอร์รี่ ทําให้เหล้า Sambuca เป็นสีน้ําเงินเข้มเกือบดําเป็นหมึก ค่อนข้างผิดปกติ จากส่วนผสมที่เข้ากันนึ้ ทำให้เกิด Sambuca Black ซึ่งรสชาติที่สมดุลนี้นั้นลงตัวอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยส่วนใหญ่นิยมเสิร์ฟแบบเพียวๆ แบบออนเดอะร็อก บางครั้งมีการผสมน้ำต่างๆ และ เสิร์ฟแบบจุดไฟ (Flaming Cocktail)

ตัว Sambuca Black นั้นจะมีกลิ่นหอมของโป๊ยกั๊กอันเป็นเอกลักษณ์และน้ํามันหอมระเหยที่ค้างอยู่นั้นมาพร้อมกับผิวเบอร์รี่ที่เข้มข้นและเผ็ดร้อน เสน่ห์ที่ละเอียดอ่อนอย่างน่าอัศจรรย์ใจ

อ้างอิ้งจาก https://www.cookingatcasa.com/2017/06/17/ร-จ-ก-เหล-าอ-ตาล-ท-ม-ด-มากกว-าความเมา

#Phoenixcocktail #PhoenixcocktailThailand #Phoenix #Blacksambuca #DrinksIndustry#Cocktails #Spirits #เครื่องดื่ม #cocktails

Comingup Events

Let’s meet at the event.
PUB&BAR ASIA 2024
BOOTH D20, HALL EH102-104,@BITEC-BANGNA

ฟีนิกซ์ : *เหล้าคุณภาพระดับโลก จากความร่วมมือกับลามาตินิก บริษัทผู้ผลิตสุรารายใหญ่จากฝรั่งเศส
จุดเด่น : *ควบคุมการผลิตโดยผู้เชี่ยวชาญระดับโลกด้วยเครื่องจักรมาตรฐานจากฝรั่งเศส *ได้รับความไว้ใจจาก โรงแรม ร้านอาหาร ผับ บาร์
ผลงาน : *แบรนด์ฟีนิกซ์ และแบรนด์อื่นๆ ในเครือ (วินเซนต์โกลด์, เอลมาทาดอร์, B52, บาร์เตอร์ฟลาย ฯลฯ)

#PubAndBarAsia2024 #Phoenix #ฟีนิกซ์ #Phoenixcocktail #cocktail #Vodka #วอดก้า #คุณภาพมาตรฐานฝรั่งเศษ #เอกลักษณ์ #แรงกล้า #Cocktails @Spirits #BeverageIndustry #HospitalityManagement #BarBusiness #AsianBeverageMarket #PBA2024 #DrinksIndustry #BarEquipment #BeverageTrends #BarManagement #BarDesign #เครื่องดื่ม #โรงแรมร้านอาหารผับบาร์
*ไม่สนับสนุนการดื่มแอลกอฮอล์ในเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี

PHOENIX CORNER

พวกเราพร้อมแล้วที่จะส่งมอบรสชาติคุณภาพจากฝรั่งเศสให้กับคุณ
แวะมาเยี่ยมชม PHOENIX CORNER กันได้ทุกวันที่ FOOD BEVERAGE FLOOR 4


#PhoenixCorner #Phoenixcocktail #Phoenix #ฟีนิกซ์ #PHENIXFOODWHOLESALEPRATUNAM #DrinksIndustry #Cocktails #Spirits #BarEquipment #BeverageTrends #BarManagement #BarDesign #เครื่องดื่ม #Vodka #วอดก้า #คุณภาพมาตรฐานฝรั่งเศส #เอกลักษณ์ #แรงกล้า #โรงแรมร้านอาหารผับบาร์ #Phoenixcocktail

IWSC REWARD – VINCENT GOLD

สินค้า Vincent Gold Brandy VSOP ได้รับรางวัลจาก IWSC หรือ International Wine and Spirit Competition จากประเทศอังกฤษ
IWSC เป็นการประกวดกลุ่มสินค้า แอลกอฮอล์และสามารถการันตีสินค้าว่ามีคุณภาพ ซึ่งการแข่งขันนี้ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก จากการให้คะแนน โดยคณะกรรมการผู้มีความรู้ ความสามารถและมีประสบการณ์ในสายงาน กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์ โดยสินค้า Vincent Gold Brandy VSOP ของเราได้รับเหรียญรางวัลประเภททองแดง (bronze) เพื่อให้เป็นการรับรองและยืนยันให้กับ ผู้บริโภคของเรา ได้สัมผัสบรั่นดีแท้ ที่มีคุณภาพ ในราคาที่จับต้องได้ โดยกรรมการของทาง IWSC ให้นิยามของสินค้าเราว่า
“Pleasant grapey aroma: sweet palate with enjoyable favours. Smooth inish.” หรือก็คือ ตัวสินค้าของเรามี
“กลิ่นหอมอ่อนๆ ขององุ่น รสชาติหวานละมุนลิ้น และรสชาติตกค้างหลังการดื่มที่นุ่มละมุน”

HISTORY OF NATIONAL WINE DAY.

Wine has been enjoyed by humans for thousands of years. The natural likeness for this drink is not only because it tastes wonderful, but also because of its nutritional value and psychotropic effects.

Wine has also had a significant impact on the economy and the shaping of societies. Out of all the alcoholic beverages, it is the trade of wine that allowed exploration of different cultures and paved the way for philosophical and religious ideas to spread. Wine is cited frequently in the “Bible,” from the time of Noah to Jesus, indicating its integral role. Wine-making was also seen as a sign of a provident economy, as only provident societies could accommodate a well-established wine industry. In fact, it is often debated that the foundations of western society were built on wine.  

The wine enjoyed in the olden days is a distant relative to the wine enjoyed today. Red, pink, green, white, and blue grapes were used by the Egyptians to prepare the drink. Palm dates, figs, and pomegranates were often added to the mix too. So the taste was completely different from what we know. Using different fruit to make wine is similar to how it is preThis availability of wineries enables us to visit the rolling hills of a beautiful vineyard closer to home. Yes, it is very likely one is near you, within range for a fun day trip or weekend getaway. So, pack your bags and set your G.P.S. to the winery closest to you!pared using grapes, except that sugar is also added to aid the fermentation process.  

The exact origin of National Wine Day is unknown, but the earliest references date back to 2009. It is a day for wine enthusiasts to unite and celebrate our favorite fermented fruit juice.

Since its establishment in 1812 by Spanish missionaries, California’s wine country in the northern Bay Area of northern California has dominated American wine production and our personal vision of the elegant American vineyard. There were a mere 25 wineries in this area of California in 1974. Today, there are over 800!

While California still leads U.S. wine production and is now home to over 4,000 wineries state-wide, wineries exist across the U.S. with at least three in every state. In fact, the most frequently visited winery today is the Biltmore Estate in Asheville, North Carolina, with over one million people annually.

cr. >> https://nationaltoday.com/national-wine-day/

CAREER

เริ่มงาน เดือนมิถุนายนนี้
รับสมัครด่วน!!! พนักงานขาย
PHOENIX CORNER สาขาประตูน้ำ

จำหน่าย เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเครือฟีนิกซ์
สินค้านำเข้าจากต่างประเทศ (กลุ่มบาร์ค๊อกเทล)

ชายและหญิง อายุไม่เกิน 35 ปี
มีทักษะการขาย เชียร์สินค้า
มีความรู้เรื่อง ค๊อกเทล
มีความรู้เรื่อง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ในระดับ ปานกลาง-ดีมาก
มีความรู้ สินค้าในเครือ และมีความสามารถทางโซเชียลมีเดีย จะพิจารณาพิเศษ
เงินเดือนตามประสบการณ์

สวัสดิการ
ประกันสังคม
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
Uniform พนักงาน
กระเช้าเยี่ยมผู้ป่วย
กิจกรรมสังสรรค์ภายนอกบริษัทฯ
โบนัส และเงินพิเศษ(ตามผลประกอบการบริษัทฯ)

สนใจสามารถส่ง Resune มาที่ e-mail : [email protected]
เบอร์โทร : 092-662-4250 (HR)
สถานที่ทำงาน : AEC FOOD WHOLESALE PRATUNUM